ชิปปิ้ง อุตสาหกรรมที่มาแรงและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ว่ากันว่าในปี 2020 อุตสาหกรรมต่างๆ จะมีความเปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้ ก็เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละยุคสมัยที่แตกต่างกัน และต่อไปนี้คือ 7 สิ่งที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในระบบขนส่งปี 2020 KigLogistics ผู้ให้บริการชิปปิ้งจีนครบวงจร ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากดังต่อไปนี้
1. Going Green
เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในทุกอุตสาหกรรมรวมถึงอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยผู้คนมีความตระหนักในประเด็นที่จะส่งผลกระทบต่อโลกของเรามากขึ้นเรื่อยๆและเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทโลจิสติกส์ยุคใหม่จะใช้บริหารจัดการในมิติที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม (Green Logistics) ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันในยุคการค้าเสรีอีกด้วย
2. อิทธิพลของการทำให้เป็นดิจิทัล
เราอยู่ในโลกดิจิทัลและการแข่งขันเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ อย่างผู้ให้บริการขนส่งทางมหาสมุทรก็ได้เปลี่ยนแปลงระบบข้อมูลทั้งหมดให้เป็นดิจิทัลและทำงานกับซอฟต์แวร์ เพื่อปรับปรุงธุรกิจ และทำให้กระบวนการดำเนินการต่างๆ ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและประหยัดต้นทุน อาทิ
- ความสามารถในการส่งสินค้าไปยังผู้ขนส่งเส้นทาง ในราคาที่ต่ำลง
- การเชื่อมต่อออนไลน์กับระบบขนส่งทางทะเลและทางบก
- เข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์
- กระบวนการ และการปฏิบัติงานทั้งหมด มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การขนส่งมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
3. เทคโนโลยี Trade Lens
Trade Lens คือ แพลตฟอร์มระบบดิจิทัลที่ใช้ในการค้าระหว่างประเทศ ช่วยให้การติดตามระบบขนส่งมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น Trade Lens เป็นหนึ่งในการปรับปรุงที่สำคัญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยซอฟต์แวร์ Trade Lens จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Blockchain และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการจัดส่งทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นประโยชน์มากและเป็นหนึ่งในการจัดส่งสินค้าที่สำคัญ แต่ก็ยังคาดว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
4. คลังสินค้าอัตโนมัติ
หนึ่งในข้อได้เปรียบของเทคโนโลยี คือ ความสามารถในการสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ และวิทยาการหุ่นยนต์กำลังจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ยิ่งไปกว่านั้น ในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยี IOT (Intenet of Things: สิ่งต่างๆ ได้ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเตอร์เน็ต) จะหลอมรวมเอาทุกๆ ขั้นตอนการให้บริการผสมผสานไว้ด้วยกัน ทำให้การทำงานบางอย่าง ไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมนุษย์อีกต่อไป
5. การลงทุนในโครงสร้างพืันฐานและแรงงานคน
แม้ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญของทุกบริษัท การจัดส่งเป็นคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐาน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาในการส่งมอบ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง และอีกมากมาย นั่นจึงเหตุผลที่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งที่ดีเสมอ
6. หุ้นส่วนมากขึ้น ธุรกิจที่ดีขึ้น
หนึ่งในการจัดส่งสินค้าที่คาดการณ์กันไว้ในปี 2020 นั่นคือ การเพิ่มจำนวนของความร่วมมือของหุ้นส่วนทางธุรกิจ ซึ่งจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาในระยะยาวเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าและการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ
7. นโยบายภาษีสำหรับปี 2020
ข้อพิพาททางด้านการค้าที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในขณะนี้ รวมทั้งนโยบายภาษีทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อ ซัพพลายเชนที่สำคัญทั้งหมด โดยอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบเรื่องราคา ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคลดลง จนนำมาซึ่งความกังวลมากมายสำหรับผู้ค้าปลีก การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเหล่านี้ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทลดลง เป็นผลให้บางอุตสาหกรรมเกิดการผูกขาดกันในตลาด
จากข้อมูลดังกล่าว สิ่งสำคัญคือการติดตามด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอและการแก้ปัญหาในรูปแบบใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่ควรลืมและเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดคือปัจจัยด้านมนุษย์ การบูรณาการด้านเทคโนโลยีการรีไซเคิล ต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในปี 2020 ทั้งสิ้น (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในการขนส่งทางเรือปี 2020)