ชิปปิ้งจีนท่ามกลางการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ และ E-Commerce มีบริษัทต่างๆ มากมายที่มองหาผู้นำด้านโลจิสติกส์
เพื่อคงความได้เปรียบด้านการแข่งขันในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต
แล้วคุณสมบัติแบบไหนของคนสายงานโลจิสติกส์ ที่บริษัทต่างๆ อยากทำงานด้วย ? คำตอบก็คือ ควรมีทักษะที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทและต้องเป็นผู้ที่ติดตาม อัปเดตสถานการณ์ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา
ข้อมูลต่อไปนี้คือทักษะของคนทำงานสายโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมและบริการชิปปิ้งจีนมากที่สุด ยิ่งฝึกฝนทักษะเหล่านี้ ยิ่งมีประโยชน์ทั้งด้านห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์
1. มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆ
เป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมาก ช่วยให้สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ในบริษัทได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ต้องมีความเข้าใจและสามารถโน้มน้าวใจลูกค้าเพื่อให้ยอมรับในข้อตกลงทางธุรกิจร่วมกัน
2. มีทักษะด้านการเขียนเพื่อสื่อสาร
หากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ จำเป็นต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญที่มีความเกี่ยวข้องหลายคน ส่วนใหญ่อาจไม่มีเวลาคุยโทรศัพท์หรือประชุมว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ส่วนใหญ่มักเป็นการสื่อสารทาง E-mail ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเสมอ ดังนั้น คนทำงานสายโลจิสติกส์นั้น ควรมีทักษะในการเขียนเพื่อสื่อสารได้ สามารถจับประเด็นสำคัญได้ และเขียนออกมาได้เข้าใจง่าย ชัดเจน
3. รอบรู้ด้านเทคโนโลยี
เทคโนโลยีโลจิสติกส์มีการปรับปรุงและถูกพัฒนาอย่างเนื่อง เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะเข้ามทำงานสายนี้จึงควรมีความคุ้นเคยในการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อจัดการด้านโลจิสติกส์ที่ซับซ้อน นอกจากนี้ ควรเรียนรู้การใช้เครื่องมือและความปลอดภัยทางโลกไซเบอร์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตเพื่อเตรียมปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง และช่วยในการตัดสินใจอันชาญฉลาดสำหรับธุรกิจ
4. มีพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์
ผู้จัดการโลจิสติกส์ต้องมองไปยังอนาคตเสมอ และการตัดสินใจที่เฉียบแหลมนั้น ย่อมต้องมีพื้นฐานความรู้หลายแขนงวิชา อาทิ มีความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างเหมาะสม และมีผลต่อการเจรจาต่อรองราคา มีความสามารถในการรักษาความปลอดภัย คาดการณ์ต้นทุนการขนส่งในอนาคตและลดค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมไปถึงมองแนวโน้มของตลาดที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้อย่างไร
5. มีทักษะการแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผล
ปัญหาเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ด้วยความซับซ้อนและองค์ประกอบที่สำคัญบนห่วงโซ่อุปทาน เช่น ราคา ก๊าซธรรมชาติ และความต้องการสินค้าที่มีความผันผวนไม่แน่นอน สภาพอากาศยังเป็นตัวแปรผันที่มีผลต่อการขนส่ง ซึ่งอาจขัดขวางการสื่อสารระหว่างทีมและซัพพลายเออร์ หากปล่อยผ่านอาจเกิดความล่าช้าของการจัดส่งและต้นทุนขนส่งอาจเพิ่มขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ เหล่านี้ขึ้น ควรได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วจากผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์
6. รับมือและแก้ปัญหาด้วยความยืดหยุ่น
ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อาจมีบางสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สถานการณ์โรคระบาดหรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง จนทำให้การขนส่งเกิดความล่าช้าโดยไม่คาดคิด ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ผู้จัดการด้านโลจิสติกส์จำเป็นต้องมีวิธีการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและสร้างสรรค์ ตลอดจนหามาตรการรับมือกับปัญหาในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีสติ
นอกจากมีทักษะโลจิสติกส์แล้ว สำหรับธุรกิจขนส่งหรือชิปปิ้งจีนต้องรู้ ‘7 กลยุทธ์การขาย ดันธุรกิจให้รุ่งและยอดขายพุ่งแรง’ เพื่อช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานและก้าวหน้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมแข่งขัน!